เมนู

ส่งไปแล้วก็ดี มีจิตน้อมไป โอนไป เอียงไป เพื่อให้วิริยะเกิดขึ้นในอิริยาบถ
ทั้งหลายมีการยืนการนั่งเป็นต้นก็ดี วิริยสัมโพชฌงค์ย่อมเกิดขึ้น. ภิกษุนั้น ย่อม
ทราบชัดว่า ก็ภาวนาของเธอย่อมเกิดขึ้นแล้วอย่างนี้ ย่อมบริบูรณ์ด้วยอรหัต-
มรรค ดังนี้.

ปีติสัมโพชฌงค์


ปีติสัมโพชฌงค์ เกิดขึ้นอย่างนี้ว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมทั้ง
หลายอันเป็นที่ตั้งแห่งปีติสัมโพชฌงค์ มีอยู่ การทำให้มากซึ่งโยนิโสมนสิการ
ในธรรมเหล่านั้น นี้เป็นอาหารเพื่อให้ปีติสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
หรือว่าย่อมเป็นไปเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้นของปีติสัมโพชฌงค์ที่เกิด
ขึ้นแล้ว" ดังนี้.
ในข้อนั้น ปีตินั่นแหละ ชื่อว่า ธรรนเป็นที่ตั้งแห่งปีติสัมโพชฌงค์
การทำไว้ในใจเพื่อให้ปีตินั้นเกิดขึ้น ชื่อว่า โยนิโสมนสิการ.
อีกอย่างหนึ่ง ธรรม 11 ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อความเกิดขึ้น
แห่งปีติสัมโพชฌงค์ คือ

1. พุทธานุสสติ
2. ธัมมานุสสติ
3. สังฆานุสสติ
4. ลีลานุสสติ
5. จาคานุสสติ
6. เทวตานุสสติ
7. อุปสมานุสสติ
8. การเว้นบุคคลผู้ (มีจิต) เศร้าหมอง

9. การคบบุคคลผู้ (มีจิต) ผ่องแผ้ว
10. การพิจารณาพระสูตรอันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส
11. การน้อมจิตไปในปีตินั้น
จริงอยู่ แม้เมื่อระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า ปีติสัมโพชฌงค์ ก็จะ
เกิดแผ่ไปตลอดสรีระทั้งสิ้นจนถึงอุปจารสมาธิ. แม้เมื่อระลึกถึงคุณของพระ-
ธรรม และพระสงฆ์ก็เหมือนกัน. เมื่อบรรพชิตพิจารณาจตุปาริสุทธิศีล ซึ่ง
รักษาไว้ไม่ให้ด่างพร้อยสิ้นกาลนาน ก็ดี เมื่อคฤหัสถ์พิจารณาศีล 5 ศีล 10
ก็ดี ปีติสัมโพชฌงค์ ย่อมเกิดขึ้น เมื่อบรรพชิตพิจารณาถึงจาคะว่า เราได้
ให้โภชนะ อันประณีตแก่เพื่อนพรหมจรรย์ ก็ดี แม้คฤหัสถ์เมื่อพิจารณาถึง
ทานอันถวายแล้วแก่ท่านผู้มีศีลในกาลเห็นปานนั้น ก็ดี ปีติสัมโพชฌงค์ ย่อม
เกิดขึ้น. เทวดาประกอบด้วยคุณเหล่าใดย่อมถึงความเป็นเทวดา แม้เมื่อ
พิจารณาซึ่งความที่คุณทั้งหลายเห็นปานนั้นมีอยู่ในตน ปีติสัมโพชฌงค์ก็เกิด
ขึ้น. เมื่อกิเลสอันข่มไว้ด้วยสมาบัติมีอยู่ แม้เมื่อพิจารณาว่า กิเลสทั้งหลาย
ไม่เกิดขึ้นตลอด 60 ปีบ้าง 70 ปีบ้าง ดังนี้ ปีติสัมโพชฌงค์ ย่อมเกิดขึ้น. เมื่อ
เว้นบุคคลผู้มีจิตเศร้าหมอง คือมีความเศร้าหมองอันสะสมไว้แล้ว โดยไม่กระ
ทำความเคารพในการดูพระเจดีย์ ดูต้นโพธและดูพรเถระ เพราะไม่มีความเลื่อม
ใสเสน่หาในพระพุทธเจ้าเป็นต้น เช่น กับธุลีบนหลังลา ก็ดี เมื่อเสพบุคคลผู้
ผ่องแผ้ว มีจิตอ่อน มากไปด้วยความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้าเป็นต้น ก็ดี ปีติ-
สัมโพชฌงค์ก็เกิดขึ้นได้. เมื่อพิจารณาพระสูตรอันเป็นที่ตั้งแห่งความเลื่อมใส
อันแสดงถึงคุณของพระรัตนตรัย ก็ดี เมื่อมีจิตน้อมไป โอนไป เอียงไปเพื่อให้
ปีติเกิดขึ้นในอิริยาบถทั้งหลายมีการยืนและการนั่งเป็นต้น ก็ดี ปีติสัมโพชฌงค์ก็
เกิดขึ้น. ภิกษุนั้น ย่อมทราบชัดว่า ภาวนาของเธออันเกิดขึ้นแล้วด้วยอาการ
อย่างนี้ ย่อมบริบูรณ์ด้วยอรหัตมรรค ดังนี้.

ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์


ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ เกิดขึ้นอย่างนี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาย-
ปัสสัทธิ จิตตปัสสัทธิ มีอยู่ การทำให้มากซึ่งโยนิโสมนาสิการในธรรมเหล่า
นั้น นี้เป็นอาหารเพื่อให้ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น หรือว่า ย่อม
เป็นไปพร้อมเพื่อความเจริญไพบูลย์ยิ่งขึ้นของปัสสัทชิสัมโพชฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ดังนี้.
อีกอย่างหนึ่ง ธรรม 7 ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อความเกิดขึ้นแห่ง
ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ คือ

1. การเสพโภชนะอันประณีต
2. การเสพอุตุอันสบาย
3. การเสพอิริยาบถอันสบาย
4. การประกอบความเพียรปานกลาง
5. การเว้นบุคคลผู้มีกายอันกระสับกระส่าย
6. การเสพบุคคลผู้มีจิตอันสงบ
7. ความน้อมจิตไปในปัสสัทธินั้น
จริงอยู่ เมื่อบริโภคโภชนะอันเป็นสัปปายะอันประณีต อันเป็นที่ชอบ
ใจก็ดี เสพอุตุอันเป็นสัปปายะในฤดูทั้งหลายอันหนาวและร้อน และเสพ
อิริยาบถอันเป็นสัปปายะในอิริยาบถทั้งหลาย มีการยืนและการนั่งเป็นต้นก็ดี
ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ย่อมเกิดขึ้น. แต่ว่า บุคคลใดผู้เป็นชาติแห่งมหาบุรุษ ย่อม
เป็นผู้อดทนในอุตุและอิริยาบถทั้งปวงเทียว ท่านมิได้กล่าวหมายเอาบุคคลผู้
เป็นมหาบุรุษชาตินั้น. ความที่บุคคลใดเป็นผู้มีสภาคะและวิสภาคะมีอยู่ เมื่อ
บุคคลนั้นนั่นแหละเว้นอุตุและอิริยาบถอันเป็นวิสภาคะ แล้วเสพอยู่ซึ่งสภาคะ